การรักษากระตื้น (Freckle , Ephelides)
กระตื้น เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และมักสร้างความกังวลในผู้ที่มีปริมาณกระมากหรือเข้มจนเห็นได้ชัดเจน โดยกระตื้นจะมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ขอบชัด ขนาด 2 – 4 มม. ส่วนใหญ่จะพบในบริเวณผิวที่สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ เช่น แก้ม โหนกแก้ม สันจมูก และพบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวขาว อาจสังเกตว่าสีจางลงได้ ถ้าเลี่ยงแสงแดดหรือทากันแดดเป็นประจำ แต่จะไม่จางหายไปทั้งหมด
การรักษากระตื้น
ในปัจจุบันนิยมใช้เลเซอร์เป็นวิธีการรักษาหลัก เนื่องจากได้ผลดีกว่าการใช้ยาทา และจำนวนครั้งการรักษาไม่มาก โดยเลเซอร์ที่เราใช้ในการรักษากระตื้นที่ Kritthada clinic มีหลักๆ 2 ชนิด คือ
-
Q switch Nd:YAG laser 532 nm เป็นเลเซอร์ที่มีความจำเพาะกับเม็ดสี สามารถยิงไปจับกับเม็ดสี melanin ในบริเวณที่มีกระตื้น โดยเลเซอร์จะทำให้ตัวเม็ดสีแตกกระจายออก และถูกกำจัดออกไป ใช้จำนวนครั้งการรักษาประมาณ 2 – 3 ครั้ง หลังการทำเลเซอร์จะมีสะเก็ดสีดำบางๆ ขึ้นบริเวณกระ และค่อยๆหลุดลอกออกใน 4 – 7 วัน
-
Picosecond Nd:YAG laser เป็นเลเซอร์เม็ดสีที่ถูกพัฒนาต่อมาจาก Q swtich Nd:AYG laser อีกขั้นหนึ่ง โดยมีข้อดีคือปล่อยแสงได้เร็วกว่า ทำให้เกิดความร้อนและการบาดเจ็บที่ผิวน้อยกว่า ทำให้ปัจจุบันเป็นเลเซอร์ที่ให้ผลดีมากในการรักษากระ ผลข้างเคียงเรื่องรอยดำที่พบหลังทำเลเซอร์ต่ำกว่าเลเซอร์ชนิดอื่นๆ และใช้จำนวนครั้งในการรักษายังน้อยกว่า Q switch laser โดยลักษณะหลังทำจะมีสะเก็ดคล้าย การรักษาด้วย Q switch laser แต่สะเก็ดจะมีลักษณะบางกว่า และหลุดลอกใน 4 – 7 วันเช่นกัน
สำหรับการรักษากระตื้นนั้น การดูแลหลังการรักษามีความสำคัญมาก เนื่องจากผิวคนไทยหรือคนเอเชียมีความไวในการผลิตเม็ดสีที่สูง อาจเกิดภาวะรอยดำหลังเลเซอร์ได้หากดูแลได้ไม่ดีเพียงพอ ซึ่งอาจสร้างความกังวลให้ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาได้
ข้อแนะนำการดูแลหลังเลเซอร์กระ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด คือ
-
หลีกเลี่ยงแสงแดด และทากันแดดเป็นประจำทั้งก่อนและหลังรับการรักษาด้วยเลเซอร์
เพราะรังสี UV ในแสงแดดเป็นตัวการกระตุ้นในเกิดรอยดำได้มากที่สุด
การป้องกันแสงแดด และทากันแดดจึงช่วยให้ผลการรักษาดี และป้องกันผลข้างเคียงได้มาก -
ทายาและครีมที่แพทย์จ่ายไป รวมทั้งรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษา เพราะยาและครีมโดยหลักจะเป็นกลุ่มยาป้องกันรอยดำ ซึ่งมีความสำคัญมากในช่วงแรกหลังเลเซอร์ หากขาดยา หรือหยุดยาเร็วเกินไปอาจทำให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควรและมีโอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์สูงขึ้นได้
-
หลีกเลี่ยงการแกะ หรือถูบริเวณที่เป็นสะเก็ด เพราะอาจทำให้สะเก็ดหลุดลอกก่อนกำหนด ทำให้เกิดรอยแดง หรือรอยดำนานกว่าปกติ เมื่อแผลหายดีแล้วสะเก็ดจะค่อยๆหลุดลอกไปตามธรรมชาติ
-
ใช้ครีม หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคืองผิว หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นล้างหน้า และการใช้ครีมที่มีผลลอกผิว หรือการใช้ scrub ขัดผิวหน้าไปก่อนในช่วงแรกหลังทำการรักษา
โปรแกรมการรักษาอื่นๆ
-
การรักษารอยสิว รอยดำ รอยแดง
-
การยกกระชับปรับรูปหน้า
Ultra Hifu by Ultraformer III
Fotona 4D -
การกำจัดขน
-
การฉีดสลายไขมัน