กระลึก (NEVUS OF HORI)
กระลึก หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Nevus of Hori เป็นลักษณะรอยดำที่ผิวชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอมเทา ขอบไม่ชัด ขนาดประมาณ 2 – 4 มม. มักเป็นบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง หากเป็นมากขึ้นอาจพบบริเวณหน้าผาก และสันจมูกได้ เริ่มพบได้ตั้งแต่วัยรุ่น และสีมักจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ และขนาดใหญ่ขึ้น อาจรวมตัวกันเป็นปื้นเมื่ออายุมากขึ้น
กระลึกเกิดจากการเพิ่มขึ้นของเซลล์สร้างเม็ดสีในชั้นหนังแท้ ซึ่งอยู่ลึกกว่าชั้นหนังกำพร้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกรรมพันธุ์ หากมีคนในครอบครัวเป็นกระลึก โอกาสที่จะพบกระลึกจะมากขึ้น และพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
"การรักษากระลึกปัจจุบันใช้การเลเซอร์เป็นวิธีหลัก เนื่องจากยาทาไม่สามารถทำให้สีกระลึกจางลงได้"
เลเซอร์ที่ใช้ในการรักษากระลึกที่ Kritthada clinic จะใช้เลเซอร์ได้ 2 ชนิด คือ
-
Q swtich Nd:YAG 1064 nm laser (Spectra) เป็นเลเซอร์ที่จำเพาะกับเม็ดสี และสามารถทะลุผ่านผิวหนังลงไปยังบริเวณที่เป็นกระลึกได้ ตัวเลเซอร์จะทำหน้าที่ทำให้เม็ดสีแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ร่างกายกำจัดออกต่อไป การยิงกระลึกนั้นจะใช้จำนวนครั้งการรักษาประมาณ 4 – 10 ครั้ง โดยเว้นระยะ 4 สัปดาห์ต่อครั้ง หลังการรักษาอาจมีแดง ช้ำได้เล็กน้อย ประมาณ 4 – 7 วันก็จะกลับมาเป็นปกติ สีของกระจะค่อยๆจางลงทุกครั้งที่ทำการรักษา แต่ในคนไทยอาจพบสีที่เข้มขึ้นในช่วงแรกที่รักษาได้ โดยจะค่อยๆจางลงตามลำดับ
-
Picosecond Nd:YAG 1064 nm laser (PICO PLUS) เป็นเลเซอร์ระบบใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Q swtich laser มีความสามารถในการทำให้เม็ดสีแตกออกได้ละเอียดกว่าและเกิดความร้อนและการทำลายผิวน้อยกว่า ทำให้มีข้อดีหลายอย่างเหนือกว่า Q switch laser เช่น จำนวนการรักษาที่ลดน้อยลง กระจางลงได้ไวกว่า ความรู้สึกเจ็บในระหว่างทำการรักษาน้อยกว่า โอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์น้อยกว่า ระยะเวลาพักหลังเลเซอร์สั้นกว่า หลังทำการรักษาอาจมีอาการแดงช้ำคล้าย Q switch laser แต่ อาการแดงช้ำจะน้อย และหายไวกว่าเลเซอร์ในระบบอื่นๆ
โปรแกรมการรักษาอื่นๆ
-
การรักษารอยสิว รอยดำ รอยแดง
-
การยกกระชับปรับรูปหน้า
Ultra Hifu by Ultraformer III
Fotona 4D -
การกำจัดขน
-
การฉีดสลายไขมัน
รีวิวรักษา กระลึก Hori's nevus ด้วย Pico Laser
ข้อแนะนำการดูแลหลังเลเซอร์กระ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด คือ
หลังการรักษากระลึกจะไม่มีสะเก็ดดำเหมือนกันรักษากระตื้น อาจมีอาการช้ำ หรือมีจุดเลือดออกเล็กๆให้เห็นในผิวได้บ้างเป็นปกติซึ่งจะค่อยๆจางลงเองใน 1 สัปดาห์ โดยในช่วงที่ทำการรักษามีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวคือ
-
หลีกเลี่ยงแสงแดดและทากันแดดเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผลการรักษาที่ดี และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงเช่นรอยดำจากเลเซอร์
-
ทายา และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อให้การรักษาที่ประสิทธิภาพดีที่สุด และมาพบแพทย์ตามที่นัดเพื่อประเมินผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
-
หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองผิว เช่น การลอกหน้าด้วยกรดต่างๆ การใช้น้ำอุ่นล้างหน้า การขัดผิว การนวดหน้า ในช่วงแรกหลังทำการรักษาด้วยเลเซอร์